หลักการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นในวันเปิดตลาด
2025-11-24 16:38
จำนวนครั้งที่อ่าน 4
สรุป หลักการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นในวันเปิดตลาด และให้ตัวอย่างการวิเคราะห์ของตลาดในวันที่ ........
เมื่อต้องวิเคราะห์ว่าเช้าวันตลาดเปิด (หรือก่อนเปิดตลาด) ตลาดหุ้นจะมีทิศทาง “ขึ้น” หรือ “ลง” เราสามารถแบ่งปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
(A) ปัจจัยแมโคร / ภายนอก – ระดับตลาด
• ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ: เช่น GDP, ดัชนี PMI (ภาคการผลิต/บริการ), อัตราเงินเฟ้อ, ยอดขายบ้านมือสอง, ฯลฯ Kasikorn Research+2ธนาคารกสิกรไทย+2
• นโยบายการเงิน / ดอกเบี้ย / ค่าเงิน / ดอลลาร์สหรัฐ: เพราะมีผลกับต้นทุนธุรกิจ หุ้นส่งออก/นำเข้า และเงินทุนเคลื่อนย้าย SCB+1
• ปัจจัยต่างประเทศ & sentiment ตลาดโลก: เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ / ภูมิภาค, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น น้ำมัน, เหล็ก, แร่), ภาวะการค้าโลก สำนักข่าวอินโฟเควสท์+1
• เงินทุนไหลเข้า-ออกจากต่างประเทศ: ส่งผลต่อดุลของตลาดหุ้นโดยรวม เพราะถ้ามีเงินทุนต่างชาติขาย จะกดดันตลาด Kasikorn Research
(B) ปัจจัยกลุ่มอุตสาหกรรม / บริษัท – ระดับ Sector & หุ้น
• ผลประกอบการ (งบ) ของบริษัทจดทะเบียน: ถ้างบดีจะสร้างแรงหนุนในกลุ่มนั้นๆ Finnomena+1
• Valuation หรือ มูลค่า: หุ้นถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม / ประวัติ Finnomena
• ปัจจัยเฉพาะกลุ่ม เช่น ราคาวัตถุดิบ, นโยบายรัฐ, แรงกดดันด้านต้นทุน, กฎระเบียบใหม่ (เช่น กลุ่มพลังงาน, กลุ่มส่งออก, กลุ่มท่องเที่ยว)
• เทคนิคนิดหน่อย: แนวโน้มหุ้น / กลุ่มอุตสาหกรรมว่า “กำลังขึ้น” หรือ “อยู่ในโซนพักฐาน”
(C) ปัจจัย “วันต่อวัน” / เชิงจิตวิทยา
• ข่าวด่วน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเปิดตลาด (overnight news) เช่น เหตุการณ์โลก, ผลประกอบการออกมาแล้ว, แก้ไขคาดการณ์ งบ, ประกาศนโยบาย
• ปริมาณซื้อ‐ขาย / ความผันผวน (Volatility) / การไหลของทุนในช่วงเช้า
• แนวรับ/แนวต้านของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ / กลุ่มอุตสาหกรรม: เพราะถ้าดัชนียังอยู่เหนือโซนแนวรับแข็ง‐อาจไม่ลงมาก หรือหากหลุดอาจมีแรงลงแรง
สมมติคุณแบ่งตลาดหุ้นออกเป็น 8 กลุ่ม เช่น
1. พลังงาน/ปิโตรเคมี
2. ส่งออก/อุตสาหกรรมหนัก
3. ธนาคาร/การเงิน
4. เทคโนโลยี/ดิจิทัล
5. บริโภคในประเทศ/ค้าปลีก
6. ท่องเที่ยว/โรงแรม/บริการ
7.อสังหาริมทรัพย์/ก่อสร้าง
8. สาธารณูปโภค/พลังงานทดแทน
คุณจึงต้องทำตามขั้นตอนดังนี้:
1. ตรวจสอบปัจจัยแมโคร: เช่น วันนี้ตลาดโลกเป็นอย่างไร ราคาน้ำมันขึ้นหรือไม่ GDP ไทยคาดเป็นอย่างไร, ต่างชาติเข้าออกทุนอย่างไร
2. ตรวจสอบข้อมูลเฉพาะกลุ่ม:
o สำหรับกลุ่ม พลังงาน/ปิโตรเคมี → ดูราคาน้ำมันดิบ, อุปสงค์-อุปทาน, นโยบายรัฐ
o กลุ่ม ส่งออก → ดูอัตราแลกเปลี่ยน, ยอดส่งออกไทย, ภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
o กลุ่ม การเงิน → ดูอัตราดอกเบี้ย, คุณภาพสินเชื่อ, กำไรของธนาคาร เป็นต้น
3. เปรียบเทียบกับหุ้น/กลุ่ม: มูลค่า, ผลประกอบการล่าสุด, แนวโน้มราคา
4. ประเมินว่าเช้าวันนี้ “โอกาส” ของแต่ละกลุ่มเป็นแบบไหน:
o ถ้าปัจจัยสนับสนุน → ให้โอกาสขึ้น
o ถ้าปัจจัยกดดัน → โอกาสลง
o ถ้าไม่มีปัจจัยชัด → อาจแกว่ง (ไซด์เวย์)
5. จัดลำดับความสำคัญของกลุ่ม: ถ้ามีกลุ่มใดที่มีปัจจัยหนุนชัดเจน เช่น น้ำมันขึ้นมาก
→ ให้พิจารณาเข้า “กลุ่มพลังงาน” ก่อน
6. วางแผนว่าจะเข้า/ออกหุ้นกลุ่มใด: เช่น วันนั้นอาจเลือกซื้อกลุ่มที่มีโอกาสขึ้น
และหลีกเลี่ยง/ลดพอร์ตกลุ่มที่มีโอกาสถูกกดดัน
การเตรียมพร้อม สร้างความเข้าใจ โดยการวิเคราะห์ตามตัวอย่าง ถือเป็นยุทธวิธีที่ สร้างความชำนาญในการวิเคราะห์ นำมาซึ่งการตัดสินใจที่มีประสิทะิภาพ
